โบลิเวีย ผวา! เจอเชื้อ ไวรัส ปริศนา คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 2 ศพ

โบลิเวีย ผวา! เจอเชื้อ ไวรัส ปริศนา คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 2 ศพ

ประเทศ โบลิเวีย พบกับ ไวรัส ปริศนาที่สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ และมีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว 2 ศพ ไวรัสโบลิเวีย – เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน สำนักข่าว เดอะ การ์เดี้ยน รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ได้ออกมาเปิดเผยว่า นักวิจัย ได้พบ เชื้อไวรัส ในประเทศโบลิเวียที่สามารถแพร่เชื้อระหว่าง คนสู่คน โดยเชื้อไวรัสจะเข้าไปทำลายหลอดเลือด แบบเดียวกันกับโรคอิโบลา

คาดว่าต้นตอของเชื้อไวรัสนี้น่าจะมาจากหนู และสามารถแพร่เชื้อผ่านสารคัดหลั่งได้ 

และจากการตรวจสอบพบว่า ในปี 2557 มีการแพรเชื้อของไวรัสชนิดนี้ ซึ่งผู้ป่วยจะมีไข้ ปวดตัว อาเจียน ปวดหลังตา ฯลฯ โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ผู้ป่วยสองรายได้แพร่ เชื้อไวรัส ให้กับเจ้าหน้าที่แพทย์สามคนที่ทำงานในนครลาปาซ ซึ่งเจ้าหน้าที่แพทย์สองนายได้เสียชีวิตจากเชื้อ ไวรัส ชนิดนี้

ขณะนี้ยังไม่มียารักษา ไวรัส ชนิดดังกล่าว และทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งหายารักษาโรคชนิดนี้ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้แยกตัวผู้ติดเชื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจาย

ทางเจ้าหน้าที่แพทย์ได้ให้กล่าวเพิ่มเติมว่า การศึกษาไวรัสชนิดนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากเชื้อ ไวรัส สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คน และอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลกได้

นักข่าว และ นักสิทธิมนุษยชน ออกมารวมตัวชุมนุมประท้วง หลังที่ประเทศ ฝรั่งเศส เข้าหารือออกกฏ ห้ามโพสต์รูปตำรวจ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน สำนักข่าว ABC รายงานว่า ทางการของประเทศ ฝรั่งเศส ได้เข้าหารือถึงกฏหมายที่ระบุว่า ห้ามโพสต์รูปของตำรวจ หากรูปภาพดังกล่าวสามารถทำให้เกิดอันตรายได้

กฏหมายฉบับนี้ระบุว่า ห้ามมีการเผยแพร่ภาพใบหน้า หรือ ส่วนใดของร่ายกาย ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถให้ผู้พบเห็นสามารถระบุตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกจำคุกเป็นระยะเวลา 1 ปี และถูกปรับเงินกว่า 1.5 ล้านบาท

จากการหารือครั้งนี้ทำให้มีสื่อมวลชนนับร้อย และ สมาชิกจากกลุ่มมนุษยชนออกมาชุมนุมประท้วงที่หน้าสมัชชาแห่งชาติ ในกรุงปารีส

สมาชิกกลุ่มมนุษยชนระบุว่า กฏหมายข้อดังกล่าวอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และเป็นการจำกัดและรุกล้ำสิทธิในการแสดงออก

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส ออกมาโต้ตอบว่า ผู้สื่อข่าวและสื่อสารมวลชนจะสามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ รวมไปถึงเผยแพร่ภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดั่งเดิม

ช่างทำโลงอินโดดวงเฮง อุกกาบาต 56 ล้าน ตกใส่บ้าน

ช่างทำโลงศพ ชาวอินโดนีเซีย กลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน หลังจากมี อุกกาบาต ตกใส่บ้าน ผู้เชี่ยวชาญตีมูลค่าร่วม 56 ล้านบาท โจชัว ฮูตากาลุง ช่างทำโลงศพ ชาวอินโดนีเซีย วัย 33 ปี กลายเป็นเศรษฐีคนใหม่ หลังจากมี อุกกาบาต ขนาดเท่าลูกฟุตบอล ตกทะลุหลังคาบ้านริมห้องนั่งเล่น

“ผมกำลังทำโลงศพ ใกล้กับถนนหน้าบ้าน ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังขนาดที่ทำให้บ้านสั่นสะเทือนเลยทีเดียว” นายโจชัว กล่าว “มันร้อนเกินไปที่จะหยิบด้วยมือเปล่า ภรรยาของผมจึงใช้พลั่วขุดมันขึ้นมา และเราจึงนำมันเข้าบ้าน”

จาเร็ด คอลลินส์ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งบินจากบาหลีมาถึงบ้านของนายโจชัวในสุมาตราเหนือ ชี้ว่า อุกกาบาตชิ้นนี้คือ CM1/2 carbonaceous Chondrite ที่มีอายุราว 4.5 พันล้านปี และเป็นชนิดสุดหายาก

ซึ่งขนาดที่นายโจชัว ค้นพบคือ 2.1 กิโลกรัม เท่ากับว่าอุกกาบาตชิ้นนี้มีมูลค่าสูงถึง 56 ล้านบาทเลยทีเดียว และเงินจำนวนนี้มันก็มากเท่ากับเงินเดือน 30 ปีของนายโจชัว ดังนั้นเขาก็จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปสร้างโบสถ์ให้ชุมชน และหวังว่าโชคครั้งนี้จะเป็นสัญญาณอันดีที่เขาจะมีลูกสาวเสียที หลังจากมีลูกชายมาแล้ว 3 คน

“ผมอยากได้ลูกสาวมาตลอด และผมหวังว่านี่จะเป็นสัญญาณที่กำลังบอกว่าผมจะโชคดีมีลูกสาวสักคน” นายโจชัว เสริม

กลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องสังเวย หลังจากที่ ทรัมป์ ได้ประกาศ ไล่ เจ้าหน้าที่เลือกตั้ง ออกจากตำแหน่ง เหตุให้ข้อมูลขัดแย้งกับเขา

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศไล่นาย คริส เคร็บ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานความมั่นคงทางอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐาน (Cisa) หลังจากที่นาย เคร็บ ได้ให้ความเห็นคัดแย้งกับผู้นำสหรัฐฯ

โดยก่อนที่นาย เคร็บ จะถูกเด้งออกจากตำแหน่ง เขาได้ทวีตลงข้อความว่า “คำกล่าวอ้างที่ระบุว่าระบบเลือกตั้งในปีนี้ถูกบิดเบือนนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่มีมูล และผู้เชี่ยวชาญทางด้านเลือกตั้งทั้ง 59 เห็นตรงกัน” ซึ่งนายเคร็บยังได้กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป