Apple เตรียมเปิดให้สามารถซ่อมระบบ Face ID ได้โดยไม่ได้เปลี่ยนมือถือ

Apple เตรียมเปิดให้สามารถซ่อมระบบ Face ID ได้โดยไม่ได้เปลี่ยนมือถือ

มีการรายกันมาว่า อีกไม่นานร้านค้า shoppingmode Apple และผู้ให้บริการต่าง ๆ จะสามารถดำเนินการซ่อมสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน Face ID ได้ โดยไม่ได้เปลี่ยนมือถือ (24 ก.พ. 2565) มีการรายงานจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ว่า บรรดาร้านค้า shoppingmode Apple และตัวแทนผู้ให้บริการ-จัดจำหน่ายต่าง ๆ จะสามารถดำเนินการซ่อมสมาร์ทโฟนที่ประสบกับปัญหาในการใช้งาน Face ID ได้ โดยไม่ต้องดำเนินการเปลี่ยนมือถืออีกต่อไป ซึ่งจะมีผลกับ iPhone XS และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

โดย Apple กล่าวว่า ช่างที่ได้รับการรับรองจะสามารถเข้าถึงบริการชิ้นส่วนของกล้อง TrueDepth 

ที่จะประกอบไปด้วยโมดูล Face ID และกล้องหน้า ทำให้สามารถดำเนินการซ่อมได้ ซึ่งแนวทางดังกล่าวนั้นจะช่วยลดปริมาณของการซ่อมแซมตัวเครื่องทั้งหมดได้ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลด Carbon Footprint จากผลิตภัณฑ์ของบริษัท

ซึ่งการซ่อมแซมแบบเฉพาะส่วนนี้ คาดว่ามีราคาที่ถูกว่าการซ่อมทั้งหมด แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยว่าราคาของการดำเนินนั้นจะเท่าไหร่ Apple ได้ดำเนินการใช้งานระบบ Face ID มาใน iPhone X เมื่อปี 2017 (ที่ซึ่งถูกยกเว้นในการแนวทางการซ่อมแซมใหม่นี้) และก็ได้มีการใช้งานในสมาร์ทโฟนรุ่นต่อ ๆ ไปหลังจากนั้น

มีการรายงานล่าสุดมาว่า บริการเกมส์รายเดือนใหม่ของ shoppingmode Sony ภายใต้ชื่อขณะนี้ – Project Spartacus ใกล้ที่จะได้เปิดตัวแล้ว และมีจุดเด่นอยู่ที่การนำเกมส์เก่ากลับมาด้วย (24 ก.พ. 2565) ล่าสุดนี้ได้มีการรายงานถึง บริการเกมส์รายเดือนแบบใหม่ของ shoppingmode Sony ที่คาดว่าจะมาแทนที่ PlayStation Plus และ PlayStation Now โดยใช้งานชื่อรหัส Project Spartacus นั้น ใกล้จะถึงเวลาปล่อยตัวแล้ว และบริการนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่การเปิดให้สามารถเข้าถึงคลังเกมส์เก่า ๆ ได้

ซึ่งข่าวนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่มาจากการรายงานของ Jeff Grubb นักข่าวจาก VentureBeat ที่ได้รายงานบน Grubbsnax (รายการแบบจ่ายเงินบน Giantbomb) โดยกล่าวไว้ว่า “มันอาจจะใกล้ที่จะปล่อยตัวแล้วกับบริการนี้ ผมคาดว่ามันจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นภายสิ้นเดือนนี้ และมันอาจจะไม่ใช่อะไรที่จะจำเป็นมีการประกาศออกมา โดยผมคิดว่ามันเป็นในเชิงของเป้าหมายภายในที่ต้องการให้บริการที่ว่าเป็น”

Grubb ยังได้กล่าวอีกว่า บริการดังกล่าวจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ระดับ ที่จะมีราคาสูงสุดถึง 16 ดอลลาร์ (523.36 บาท) “ในเวลานี้ พวกเขาเรียกระดับการให้บริการที่ว่าไว้ว่า  ‘essential’, ‘extra’ และ ‘premium’” “และในส่วนของราคานั้น ในเวลานี้ยังเป็นราคาปักหมุดไว้ก่อน โดยราคาจะอยู่ที่ 10 ดอลลาร์/เดือน (essential), 13 ดอลลาร์/เดือน (extra) และ 16 ดอลลาร์/เดือน (premium)”

โดยรายละเอียดของระดับบริการนั้น Grub ก็ได้อธิบาย ที่จะสรุปได้ประมาณนี้

1. Premium : คาดว่าจะมาไม้เดียวกับ EA Play ที่จะเปิดให้สามารถทดลองเล่นเกมส์ได้ (โดยคาดว่าจะเป็นเกมส์โดยเฉพาะของ Sony แต่ไม่มั่นใจจะทุกเกมส์หรือไม่), จะได้รับเกมส์คลาสสิค หรือเกมส์เก่า (ที่ไม่รู้ว่าจะย้อนไปถึงไหน) และระบบ Cloud Streaming (ที่มีเฉพาะในระดับนี้เท่านั้น)

2. Extra : จะสามารถเข้าถึงคลังเกมส์ที่สามารถดาวน์โหลดได้บน PlayStation Now โดยจะมีเกมส์ให้เข้าถึงได้ประมาณ 250-300 เกมส์

3. Essential : มันก็คือ PlayStation Plus ที่มีเกมส์รายเดือน แบบที่เรารู้กันในทุก ๆ วันนี้

Grubb ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “มันอาจจะราคาในรูปแบบรายปีสำหรับบริการแบบนี้อีกด้วยมั้ยนั้น ผมไม่ทราบเหมือนกัน และไม่ได้ยินอะไรในส่วนนี้ด้วย”

Microsoft เริ่มทดสอบ Windows 11 Taskbar สำหรับ Tablet

shoppingmode Microsoft เริ่มดำเนินการทดสอบ Windows 11 Taskbar สำหรับ Tablet ภายในการอัปเดตระบบปฏิบัติการล่าสุด (Build 22563) (25 ก.พ. 2565) shoppingmode Microsoft ได้ทำการปล่อยการอัปเดตระบบปฏิบัติการล่าสุด (Build 22563) สำหรับ Windows 11 ที่ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอยู่จำนวนหนึ่ง โดยคิดว่าดูเป็นการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็เป็นในส่วนของ Taskbar สำหรับ Tablet ที่ได้รับการปรับให้เข้ากันได้มากขึ้น

ตัวระบบในเวอร์ชั่นใหม่นี้ จะมีการเพิ่ม Taskbar สำหรับ Tablet เข้าไปด้วย ที่จะกินพื้นที่หน้าจอน้อยลง และจะแสดงผลข้อมูลเฉพาะข้อมูลที่สำคัญเท่านั้น เช่น เวลา, Wi-Fi และสถานะของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังสามารถจะย่อลงได้ด้วยการปัดลงไปยังด้านล่างหน้าจอ หากต้องการขยายก็เพียงแค่ปัดขึ้น

รวมไปถึงยังได้มีการปรับปรุงในส่วนของ Widgets Board ที่จะมีความกลมกลืนกันมากขึ้น ไม่แยกออกห่างจากกันเหมือนก่อนหน้า และ Emoji ของชุดเวอร์ชั่น 14.0 ที่จะมาด้วยกันถึง 37 แบบ

บภาพดวงตาของบุคคลในภาพได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าจะกำลังเคลื่อนไหวอยู่ก็ตาม เรียกว่าสะดวกสุด ๆ เพราะไม่ต้องมาคอย นั่งจิ้มโฟกัสหลายครั้ง มั่นใจเลยว่า ได้ภาพสวยคม ไม่มีพลาดช็อดสำคัญ ใครที่ชอบถ่ายภาพลูก ๆ หลาน ๆ ที่จะต้องวิ่งไปมาไม่อยู่นิ่งให้เราถ่าย แนะนำเลยว่าโหมดนี้คุ้มแน่นอน

โดยเครื่อง vivo Y52 5G มีราคาที่เรียกได้ว่า ถูก และ คุ้ม สุด ๆ ด้วยราคาเพียง 7,999 บาท มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Graphite Black และ Polar Blue หากใครต้องการตรวจสอบสเปคอื่น ๆ ก็สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ vivo Thailand หรือสั่งผ่านได้ที่

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป