ฆ่าอูฐในออสเตรเลีย– มีรายงานที่น่าตกใจมาว่า อูฐจำนวน 10,000 ตัว ในภูมิภาคที่แห้งแล้งของประเทศออสเตรเลีย อาจเสี่ยงถูกกำจัดได้ หลังจากที่มีการร้องเรียนว่า อูฐกำลังเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน เนื่องจากมันบุกรุกเข้ามายังบ้านเรือน เพื่อหาแหล่งน้ำ เนื่องจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ทางออสเตรเลียได้เตรียมส่งนักล่ามืออาชีพเพื่อทำการฆ่าอฐ และเจ้าหน้าที่ก็ได้อนุมัติแล้ว
ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันพุธที่ 8 มกราคม คาดว่าจะใช้เวลา 5 วัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อจะควบคุมประชากรอูฐ เนื่องจากออสเตรเลียมีจำนวนอูฐอยู่ในประเทศมากถึง 1 ล้านตัว ทางองค์กร National Feral Camel Management Plan กล่าวว่าถ้าไม่มีแผนควบคุมประชากร อูฐจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 9 ปี
ในพื้นที่ Anangu Pitjantjatjara Yankunytjatjara (APY) ซึ่งเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวอะบอริจิน จัดเป็นหนึ่งในพื้นที่แห้งแล้งมาก แต่จำนวนอูฐจรจัดนั้นมีมาก และพวกมันก็กระหายน้ำ เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดเพิ่มขึ้น มาริตา เบเกอร์ หนึ่งในสมาชิกบริหารของ APY ชี้ว่า ชุมชนของเธอต้องเจอกับเหล่าอูฐจำนวนมาก เข้ามาอย่างท่วมท้นทำให้คนในชุมชนต้องติดอยู่กับสภาพที่ร้อน เหม็นอับ และน่าอึดอัด เนื่องจากอูฐบุกเข้ามาในบ้าน พังรั้วจนเสียหาย และพยายามจะเข้ามาหาน้ำจากเครื่องปรับอากาศ
ก่อนหน้านี้ ทางการออสเตรเลียเคยออกนโยบายควบคุมประชากรอูฐมาแล้ว โดยโทษว่าอูฐคือสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 1 ตัน ในช่วงเวลา 1 ปี เทียบเท่ากับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากรถยนต์ 400,000 คัน
ไวรัสโคโรน่า – ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสาพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ซึ่งมีศูนย์กลางการแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศจีนพุ่งทะลุ 17,205 โดยในวันอาทิตย์มีผู้ป่วยใหม่ 2,829 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 57 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 361 ราย
ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ครั้งนี้ มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อช่วงการระบาดของโรคซาร์สเมื่อปี 2546 ไปแล้ว (โรคซาร์สระบาด ติดเชื้อทั่วโลก 8,098 ราย เสียชีวิตรวม 774 ราย อัตราการเสียชีวิต 9.6%)
โดยวานนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คนในประเทศฟิลิปปินส์จากไวรัสโคโรน่า นับเป็นผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนรายแรก รวมทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่า 362 ราย
ขณะที่ข่าวดีของประเทศไทย แพทย์ไทยประสบความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยอู่ฮั่น 2 ราย จากไวรัสโคโรน่า ด้วยการใช้ยาต้านไวรัส HIV มาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา
ดร. เกรียงศักดิ์ แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯกล่าวว่าได้รักษาผู้ป่วยหญิงจีนอายุ 71 ปี จากประเทศจีนด้วยการใช้ยาร่วมกันในยาต้านเอชไอวีและยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ โดยผู้ป่วยเมื่อรับยามีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง และผลการทดสอบก็เปลี่ยนจากการเป็นบวกเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงเช่นกัน
คลิปโดนัลด์ ทรัมป์แถลง หลังโดนอิหร่านยิงขีปนาวุธ ไม่ตอบโต้แต่จะคว่ำบาตร
จากกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งสังหาร สั่งสังหาร พลตรี ซูลีมานี วัย 62 ปี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (Revolutionary Guard Corps) เมื่อวันที่ 3 มกราคม นำไปสู่การตอบโต้ด้วยการที่อิหร่านยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพสหรัฐอเมริกาสองแห่งในอิรัก เกือบสิบลูกเมื่อวานนี้ ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะบานปลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ หรือเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้
ล่าสุดคืนวานนี้ตามเวลาประเทศไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงที่ทำเนียบขาว สรุปได้ดังนี้
1.การโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านใส่ฐานทัพสหรัฐในอิรัก 2 แห่ง ไม่มีทหารหรือพลเรือนเสียชีวิต
2.แม้่ว่าสหรัฐจะมีแสนยานุภาพทางการทหารเหนือว่า แต่สหรัฐไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงทางทหาร จะใช้มาตรการคว่ำบาตรอิรัก
3.ไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง
4.ทรัมป์พูดถึงความพยายามในการแสวงหาสันติภาพ ไม่ให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างสหรัฐและอิหร่าน สหรัฐต้องการความสงบ
5.อิหร่านควรจับมือกับสหรัฐเมื่อจัดการศัตรูที่แท้จริงคือ กลุ่ม ISIS
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป